พิภพ ยนตรกิจ

พิภพ ภู่ภิญโญ ได้เป็นพระเอกหนังไทยในหลายๆเรื่อง ไถง สุวรรณฑัต คือ ผู้ชักนำเข้าสู่วงการ แรกเริ่มไถงจะสร้างหนังเรื่อง เกาะตะรุเตา ก็เลยรับสมัครพระเอกใหม่ มีคนมาสมัครมากมายได้ผู้เข้ารอบมา 15 คน ในจำนวนนี้ก็มีนักมวยติดมาคนหนึ่งชื่อ พิภพ ภู่ภิญโญ พิภพ ได้รับคัดเลือกให้เป็นพระเอกในเรื่อง เกาะตะรุเตา ผลงานเรื่องแรกของพิภพผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พิภพเลิกชกมวยหันมาเล่นหนังดีกว่า(อดีตเคยเป็นนักมวย) ผลงานเรื่องต่อๆมาโดยสร้างของไถง สุวรรณฑัต ในเรื่อง ขุนศึกน่านเจ้า พิภพได้รับบทพระเอกอีกเรื่อง การรับบทพระเอกของพิภพเป็นไปได้เพียงไม่กี่เรื่อง พิภพก็ถูกให้มารับบทร้าย และรับบทร้ายมาตลอด พิภพ ภู่ภิญโญ เป็นหนึ่งในดาราอาวุฒิโสในอดีตที่มีผลงานแสดงฝากไว้มากมายกว่าร้อยเรื่อง ลักษณะเก่นของภิพบ ภู่ภิญโญ คือ เป็นนักแสดงที่มีหัวล้าน ไว้หนวด และรับบทเป็นตัวร้ายหรือโจร ในทุกๆเรื่อง ผลงานที่เด่นๆของพิภพ ภู่ภิญโญ ที่ดังๆก็มีอยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่อง ทอง (ภาพยนตร์) ของฉลอง ภักดีวิจิตร พิภพได้รับบทเป็นหัวหน้ากองโจร ประชันพระเอกในเรื่องอย่างสมบัติ เมทะนี และ กรุง ศรีวิไล

[แก้] วลียอดฮิตของพิภพ

พิภพ ภู่ภิญโญ เจ้าของเอกลักษณ์ ศีรษะโล้น ดาวร้ายที่โกนผมเล่นภาพยนตร์ไทยกว่า 100 เรื่อง โดยเป็นดาวร้ายที่มีบุคลิกต้องลูบหัวเมื่อเวลาไม่สบอารมณ์ส่งชื่อให้เขาเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กับวลีที่ว่า "ชั้นจะยัดเยียดความเป็นผัวให้กับเธอ"

[แก้] ฉายา

และยังได้รับฉายาคือ"ยูล บรินเนอร์เมืองไทย" และชื่อในสมัยที่เป็นนักมวย พิภพ มีชื่อว่า"พิภพ ยนตรกิจ" และปัจจุบันนี้ พิภพ ภู่ภิญโญ เสียชีวิตแล้วด้วยโรคเบาหวานในขณะมีอายุได้ 76 ปี

พิภพ ภู่ภิญโญ หรือที่เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2470 เรียนที่โรงเรียนนันทนศึกษา แถวราชวัตร กทม. พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก เมื่อโตเป็นหนุ่มยิ่งลำบากเพราะเรียนมาน้อย เลยต้องหันมายึดอาชีพต้อยมวย พิภพได้พบรักกับ สมพิศ มีทายาท 2 คน เขาเป็นดาวร้ายที่รุ่งเรืองอย่างมากในช่วงหนังบู๊คลองตลาด ในปี 2518 เป็นต้นมา ก่อนจะจบชีวิตลงด้วยโรคเบาหวาน เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2551 ที่โรงพยาบาลปทุมธานี รวมอายุ 76 ปี และฌาปนกิจที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน

พิภพ ภู่ภิญโญ เจ้าของเอกลักษณ์ ศีรษะโล้น ดาวร้ายที่โกนผมเล่นภาพยนตร์ไทยกว่า 100 เรื่อง โดยเป็นดาวร้ายที่มีบุคลิกต้องลูบหัวเมื่อเวลาไม่สบอารมณ์ส่งชื่อให้เขาเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กับวลีที่ว่า
"ชั้นจะยัดเยียดความเป็นผัวให้กับเธอ"
พิภพ ภู่ภิญโญ สมัยที่เข้าวงการใหม่ เขาได้รับบท "พระเอก" ด้วยความหล่อเหลา ผมเต็มศรีษะ เข้าตาของ ไถง สุวรรณฑัต คือผู้ชักนำพิภพเข้าสู่วงการ แรกเริ่มไถงจะสร้างหนังเรื่อง เกาะตะรุเตา ก็เลยรับสมัครพระเอกใหม่ มีคนมาสมัครมากมายทั้งหน้าไทย หน้าจีน หน้าแขก เสร็จเรียบร้อยก็ได้ผู้เข้ารอบมา 15 คน ในจำนวน 15 คนนี้ก็มีนักมวยติดมาคนหนึ่งชื่อ "พิภพ ยนตรกิจ" หรือ "พิภพ ภู่ภิญโญ" ในปัจจุบัน
และแล้วผลการคัดเลือกก็ออกมา  พิภพ ได้รับคัดเลือกให้เป็นพระเอกในเรื่อง "เกาะตะรุเตา"  ผลงานเรื่องแรกของพิภพผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทำรายได้พอสมควร พิภพยิ้มออกเลิกชกมวยหันมาเล่นหนังดีกว่า
ผลงานเรื่องต่อไปก็ยังคงเป็นการสร้างของ ไถง สุวรรณฑัต ในเรื่อง "ขุนศึกน่านเจ้า" พิภพได้รับบทพระเอกเช่นเคย การรับบทพระเอกของพิภพเป็นไปได้เพียงไม่กี่เรื่อง พิภพก็ถูกให้มารับบทร้าย เมื่อเป็นเช่นนี้พิภพก็คิดหนัก จะรอเป็นพระเอกอย่างเดียวงานก็เข้าน้อย อาชีพชกมวยก็เลิกแล้ว คิดตรงกันข้ามถ้ารับบทผู้ร้ายตลอด งานการแสดงน่าจะเยอะกว่าการเป็นพระเอกมาก เมื่อเป็นเช่นนี้เลยตัดสินใจยอมรับบทร้ายแทนพระเอก
พิภพ หลงไหลในผลงานการแสดงของยูล บรินเนอร์อย่างมาก หลังจากตัดสินใจรับบทดาวร้ายแล้ว เขาจึงโกนศรีษะ เพื่อให้เหมือน ยูล บรินเนอร์ และก็เป็นไปตามนั้น เมื่อโกนหัวก็เลยได้รับฉายาให้เป็น "ยูล บรินเนอร์เมืองไทย"
เขาเป็นดาวร้ายที่รุ่งเรืองอย่างมากในช่วงหนังบู๊คลองตลาด ในปี 2518 เป็นต้นมา จนถึงปี 2528 ก่อนจะหมดยุคของหนังบู๊ เมื่อหนังไทยซบเซา บู๊ก็ได้หันมายึดอาชีพค้าขาย โดยขายส้มตำ อยู่ที่บางแสน ก่อนจะจบชีวิตลงเมื่อไม่นานมานี้
เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย :: ชื่อ "พิภพ ยนตรกิจ" นี้ก็มิใช่ชื่อจริงของ พิภพ แต่เป็นชื่อในวงการมวย ซึ่งได้มาอย่างง่าย ๆ จากวันหนึ่งที่ พิภพ ยังคงชกมวยอยู่ และนั่งรถสามล้อผ่านสะพานผ่านพิภพลีลา มีสาวสวยยิ้มให้ ทำให้พิภพตัดสินใจใช้ชื่อสะพานเป็นชื่อนักมวยว่า "พิภพ ยนตรกิจ" มาตั้งแต่นั้น

แหล่งที่มา    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%9E_%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B9%82%E0%B8%8D
                     http://www.oknation.net/blog/swongviggit/2010/12/24/entry-3

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การชกมวยชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่9

ประวัติค่ายมวยยนตรกิจ

ภาพการรวมตัวของนักมวยในค่ายมวยยนตรกิจ