สิ่งที่นักมวยไม่ควรลืม เมื่อเป็นนักมวยดังหรือมีค่าตัวสูง

       สิ่งที่ไม่ควรลืมของนักมวยมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกตัญญูต่อครู อาจารย์ ที่สั่งสอนวิชาความรู้ การมีความร่วมรับผิดชอบต่อค่ายมวย เพราะเมื่อค่ายส่งนักมวยขึ้นชกสิ่งที่ได้ค่าผลตอบแทน เช่น ค่าตัวนักมวย และ ส่วนของค่ายมวยที่จะใช้ดูแลเพื่อนร่วมค่าย ( ค่ายมวยคือธุรกิจหนึ่งที่ต้องใช้เงินในการปลุกปั่นกว่าจะได้นักมวยยอดฝีมือมาคนหนึ่ง ) ดังนั้นเมื่อนักมวยได้รับค่าตัวมาแล้วควรใช้เงินที่ได้มาเพื่อการลงทุน ไม่ควรนำไปใช้เพื่อหาความสุขเข้าหาตน เพราะนักมวยในอดีตมักจะใช้เงินที่หามาได้ด้วยเหตุผลต่างๆนานา ( เพื่อความบันเทิงซะส่วนใหญ่ ) จึงทำให้ไม่มีการเก็บออมเงินที่ตนหามาได้ บ้างคนชกตั้งแต่อายุ16-17ปี เลิกชกตอนอายุ 30กว่าๆ มีเงินค่าตัวตั้งแต่เริ่มชกเป็นล้านบาท สมัยก่อนเป็นล้านถ้าเทียบกับเงินสมัยนี้ก็หลายสิบล้าน ครั้นพออายุมากขึ้นก็ไม่มีเงินเก็บไว้ใช้ยามแก่ยามชรา ต้องพึ่งพาอาศัยลูกหลาน  แต่ใช่ว่านักมวยจะเป็นกันทุกคนบ้างคนมีทักษะในการลงทุนทางการเงินก็ยังนำเงินส่วนที่เก็บมาใช้ให้เกิดดอกออกผล (ไม่ใช่ปล่อยเงินกู้นะครับ) เช่น ฝากธนาคาร ซื้อที่ดิน ซื้อทองคำ เป็นต้น
     การลงทุนที่เหมาะสมกับนักมวยใช่ว่าจะเป็นการเปิดร้านอาหาร แบบที่เราๆเห็นกันในข่าวนะครับ  เพราะการเปิดร้านอาหารต้องใช้เงินทุนจำนวนค่อนข้างมาก ต้องมีประสบการณ์ในการจัดการที่ดี การเปิดร้านอาหารนั้นจำต้องอาศัยผู้ที่จะมาทาน เหมือนกับการที่ต้องนั่งลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าวันนี้จะมีลูกค้าเข้ามาเท่าไร ยอดขายได้เท่าไร ใช่ว่าจะใช้ชื่อเสียงของนักมวยที่ตนมีอยู่นั้นเรียกแขก (ลูกค้าเข้ามาได้) สิ่งสำคัญอีกอย่างของการลงทุนทำร้านอาหารคือการร่วมหุ้น บ้างคนบอกว่าร่วมหุ้นแล้วจะเจ็บตัวจากการลงทุนน้อยลง อาจจะใช่แต่ถึงเวลาก็เจ็บตัวตามๆกัน
    ดังนั้นการลงทุนที่เหมาะสมอาจะไม่ใช่แค่นักมวยเท่านั้น ยังอาจร่วมไปถึงประชาชนคนธรรมดาทั่วๆไปก็ได้  คือ
    1. การฝากเงินทั้งแบบฝากประจำ ไม่ประจำ ซึ่งแล้วแต่เราจะเลือกว่าต้องการดอกเบี้ยแบบไหน  ยังมี
    2.การลงทุนในทองคำ
    3.การลงทุนในหุ้นซึ่งในยุคปัจจุบันนั้นง่ายมาก ทำการซื้อ-ขายผ่านมือถือได้ด้วยตนเอง แต่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้  บ้างคนบอกว่าลงทุนในหุ้นน่ากลัวเพราะกลัวแบบปี40 มันก็แล้วแต่คนจะคิดกัน   การลงทุนในหุ้นมีทั้งกำไรจากราคาส่วนต่าง  เงินปันผล  หุ้นปันผล ฯลฯ
    4.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  เช่น ที่ดิน  บ้าน  ตึกแถว(อาคารพาณิชย์) เป็นต้น  การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักมวย เพราะไม่ต้องมีเวลามากมาย  นำอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ไปปล่อยให้เช่า รอเก็บเงินค่าเช่าแล้วนำไปลงทุนต่อได้
   การที่นักมวยนำเงินค่าตัวของตนเองมาลงทุนนั้นเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคตของตนเอง เนื่องจากอายุที่จะสามารถขึ้นชกได้นั้นมีไม่มาก พอ20ปลายๆก็ควรเลิกได้แล้ว  เพราะการชกในแต่ละครั้งจะทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ  มันอาจจะไม่ได้เห็นผลแค่เท่าที่เห็น  แต่อนาคตมันจะแสดงออกมาค่อนข้างมากในยามชรา  เช่น ตาเริ่มมองไม่เป็น(อิศรศักดิ์)  เริ่มคิดว่าคนอื่นมาท้าต่อยกับตนตอนเวลาตื่นและจะนอน (สมเดช ยนตรกิจ)เป็นเหตุมาจากการได้รับความกระทบกระเทือนกับสมองมาอย่างต่อเนื่อง มีอาการตอนอายุเยอะมากแล้ว  เป็นต้น
    ด้วยเหตุต่างๆนานาจึงอยากให้ได้เห็นถึงความไม่ยั้งยืนของอาชีพนักมวย  แต่ก็ใช่ว่าแค่นักมวยยังรวมไปถึงค่ายมวยด้วย  เพราะทุกย่างมีขึ้นก็ย่อมมีลง  งานเลี้ยงทุกงานย่อมมีวันเลิกรา  เพียงแต่เราจะเตรียมตัวเตรียมใจกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไรเท่านั้น